คิดให้เป็นสีชมพู ฉนวนได้รับการปรับปรุงโฉม

หากจะมีใครที่ถูกมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฉนวน ก็ต้องเป็น Owens Corning บริษัทระดับโลกแห่งนี้ได้คิดค้นฉนวน FIBERGLAS™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930 ทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า บริษัทได้พัฒนาผลงานของตนอย่างมั่นคง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการมากมายให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การบินและรถยนต์ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและสินค้าเพื่อผู้บริโภค

ฉนวนอาคารของ Owens Corning หล่อด้วยสีชมพูที่เป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขา เป็นก้าวเริ่มต้นของธุรกิจ FIBERGLAS™ ของพวกเขา ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 บรรดาผู้แข่งขันโดยตรงเริ่มตอบสนองต่อแนวโน้มใหม่ โดยการนำฟอร์มัลดีไฮด์ออกไป ซึ่งสารดังกล่าวมักถูกใช้เพื่อเป็นกาวเพื่อยึดใยแก้วที่ใช้ในวัสดุฉนวนไว้ด้วยกัน แล้วหันไปใช้ส่วนผสมชีวภาพ

ในปี 2009 ทาง Owens Corning ได้ติดต่อคาร์กิลล์เพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ตามการแข่งขันทัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่คาร์กิลล์ได้พัฒนาวัสดุทดแทนอันเป็นนวัตกรรมใหม่ให้แก่บริษัทโดยเฉพาะ นั่นคือมอลโตเด็กซ์ตริน ซึ่งเป็นสารละลายที่คล้ายกับแป้งและน้ำเชื่อมกลูโคส ซึ่งใช้เชื่อมใยแก้วเข้าด้วยกัน

“ทีมงานทั้งทีมของเราประทับใจในคาร์กิลล์ ทั้งจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์พวกเขาที่นำเสนอและจากความสามารถด้านเทคนิคของบรรดานักวิทยาศาสตร์ของพวกเขา”
เดฟ เมิร์ธ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Owens Corning

หลังจากการเปิดตัวของฉนวน EcoTouch^® ในปี 2011 Owens Corning ยกย่องทีมของคาร์กิลล์ (ด้านบน) สำหรับผลงานที่เป็นนวัตกรรมของพวกเขา ด้วยรางวัล ซัพพลายเออร์แห่งปี อันทรงเกียรติ

ในระยะเวลาแค่เพียง 18 เดือน คาร์กิลล์และ Owens Corning ได้ประดิษฐ์ฉนวนใหม่จนเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเปิดตัวในปี 2011 ในชื่อ EcoTouch^® หลังจากได้รับใบรับรองฉนวนชีวภาพเป็นใบแรกของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (USDA) ต่อมาในปีนั้น บริษัทได้รับ รางวัลซัพพลายเออร์แห่งปี ของ Owens Corning เพื่อเป็นการยกย่องแก่คาร์กิลล์สำหรับผลงานที่บูรณาการและมีแนวคิดก้าวหน้าของพวกเขา

ตั้งแต่ความสำเร็จของฉนวน EcoTouch^® บริษัททั้งสองได้ร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง Owens Corning ใช้บริการด้านการบริหารความเสี่ยงและผลิตภัณฑ์พลังงานจากคาร์กิลล์อยู่แล้ว นอกจากนั้นแล้ว ธุรกิจทั้งสองยังค้นพบวิธีใช้มอลโตเด็กซ์ตรินเหลวสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ฉนวนเพื่อการพาณิชย์ได้อีกหลายชนิด จอห์น ฮิลเลนบรานด์ รองประธานของ Owens Corning และหัวหน้าแผนกนวัตกรรม ได้ตระหนักถึงศักยภาพที่ไม่เหมือนใครของความร่วมมือกันดังกล่าว “เราต้องการหุ้นส่วนที่จะช่วยให้เรายังสามารถรักษาการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ต่อไป และคาร์กิลล์ก็เป็นหุ้นส่วนที่เราโปรดปราน”