สร้างพลังงานทดแทนให้แก่เกาะเชจู

เกาะเชจู ซึ่งมักถูกเรียกว่า “ฮาวายแห่งเกาหลี” ถือเป็นสถานที่ตากอากาศเขตร้อนที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและคู่สมรสใหม่ ที่จริงแล้ว เกาะแห่งนี้ได้รับการขึ้นทำเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ในปี 2007 จากความงดงามที่โดดเด่นของมัน และเกาะนี้ยังเป็นแหล่งกิจการเลี้ยงสุกรอีกด้วย ซึ่งก็มีการคาดหวังไว้ว่าจะสามารถดำเนินกิจการได้โดยไม่ส่งกลิ่นรบกวนการท่องเที่ยวของท้องถิ่น

เพื่อช่วยผู้ผลิตปศุสัตว์ท้องถิ่นในการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของเกาะไว้ คาร์กิลล์จึงได้ทำการมอบทุนกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเชจูในปี 2011 เงินบริจาคนี้ถูกนำไปช่วยเหลือในการสร้างโรงงานแก๊สชีวภาพที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับของเสียจากผู้ผลิตสุกรในรูปแบบใหม่ โรงงานที่ทันสมัยนี้รวบรวมของเสียไว้ในบ่อหมักปิดผนึก ที่ซึ่งจะแปลงมันให้กลายเป็นแก๊สมีเทนที่ให้พลังงานแก่ระบบกำเนิดไฟฟ้า โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึงกว่า 700,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งให้พลังงานแก่ทั้งโรงงานเองและหล่อเลี้ยงเครือข่ายพลังงานไฟฟ้าท้องถิ่น

ระบบที่ปิดอย่างแน่นหนาของโรงงานยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากมูลของปศุสัตว์อีกด้วย ซึ่งช่วยรักษาชื่อเสียงของเกาะให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่น่ารื่นรมย์ได้ต่อไป นอกจากนี้ ของเสียส่วนที่เหลือก็ยังได้รับเปลี่ยนไปเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และนำไปจำหน่ายกลับไปยังเกษตรกรโดยตรงได้อีกด้วย นอกเหนือไปจากการกำจัดกลิ่นและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ โรงงานแก๊สชีวภาพแห่งนี้ยังมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตพลังงานทดแทน และช่วยลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4,134 ตันภายในปีแรก

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการลดการปล่อยมลพิษ คาร์กิลล์จึงได้ทำการช่วยเหลือรัฐบาลเกาหลีสร้างโรงงานแก๊สชีวภาพลักษณะคล้ายกันนี้ขึ้นอีกแหน่งหนึ่งในเมืองยางซาน

ในความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ในตอนนี้ คาร์กิลล์กำลังให้การช่วยเหลือแก่รัฐบาลเกาหลีในการสร้างโรงงานแก๊สชีวภาพแห่งใหม่ในเมืองยางซาน
การที่รัฐบาลตัดสินใจที่จะปรึกษาทางคาร์กิลล์ตลอดโครงการยางซานนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่าโรงงานแก๊สชีวภาพของบริษัทเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และเป็นที่ชื่นชมจากชุมชนในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อม