skip to main content

นวัตกรรมต่างๆ มุ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายความปลอดภัยด้านอาหาร

คาร์กิลล์พัฒนาวิธีการผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงการกำจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายออกจากเนื้อด้วยวิธีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

January 01, 2015

ลองก้าวเข้าไปเยี่ยมชมในโรงงานผลิตเนื้อของคาร์กิลล์ที่มีอยู่มากมายแห่งใดก็ได้ แล้วคุณจะได้เห็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง เพื่อใช้ในการเลี้ยงดูโลก บริษัททำงานด้วยความอุตสาหะกับอาหารทุกหมวดหมู่ เพื่อพัฒนาและใช้นวัตกรรมความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งเป็นสาขาเฉพาะที่ทุ่มเทเพื่อการผลิต การจัดการ การเตรียมการ และการจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์จากโรคที่เกิดจากอาหาร

ในปี 1993 การระบาดของเชื้ออี โคไล O157:H7 ในเนื้อบดทำให้สาธารณชนมีความตระหนักเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมีความปลอดภัยด้านอาหารที่ดีมากขึ้น เพื่อแก้ไขผลเสียหายที่อาจเกิดขึ้นของโรคที่เกิดจากอาหาร แม้ว่าคาร์กิลล์จะไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายเนื้อบดที่มีการปนเปื้อนเชื้ออีโคไล O157:H7 แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลให้มีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา คาร์กิลล์ได้ลงทุนไปกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในด้านความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ระเบียบกรรมวิธีเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารที่เพิ่มขึ้น การฝึกอบรมที่ครอบคลุมและมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อต่อกรกับแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างไม่จำเพาะเจาะจง เช่น เชื้ออี โคไล และเชื้อซาลโมเนลลา ในปัจจุบัน พนักงานประจำมากกว่า 700 คนของคาร์กิลล์ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตเนื้อวัว เนื้อสุกร และเนื้อไก่ของบริษัทในอเมริกาเหนือ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเนื้อที่คาร์กิลล์เป็นผู้ผลิต

ความมุ่งมั่นที่บริษัทมีต่อความปลอดภัยด้านอาหารส่งผลให้บริษัทเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรม หลังจากการระบาดของเชื้ออีโคไลในปี 1993 บริษัทได้ร่วมพัฒนาระบบพาสเจอร์ไรส์ด้วยความร้อนจากไอน้ำ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ไอน้ำแรงดันสูงพ่นไปบนซากเนื้อวัว เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียบนพื้นผิวได้ถึง 99.9% ระบบดังกล่าวได้รับการรับรองจากกระทรวงการเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ภายในระยะเวลาสองปี ทำให้คาร์ิกิลล์กลายเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่เริ่มใช้ระบบที่ค้นพบใหม่นี้ ปัจจุบัน การพาสเจอร์ไรส์ด้วยความร้อนจากไอน้ำหรือการทำความสะอาดซากวัวด้วยน้ำร้อนเป็นวิธีมาตรฐานของโรงงานผลิตเนื้อวัวของคาร์กิลล์ทุกแห่ง

ความพยายามในการต่อกรกับโรคที่เกิดจากอาหารไม่มีวันสิ้นสุด ช่วงต้นศตวรรษที่ 2000 คาร์กิลล์สร้างระบบทำความสะอาดซากวัวแบบ Hide-On Carcass Wash เพื่อลดการเกิดการปนเปื้อนเชื้ออี โคไล วิธีที่คาร์กิลล์เป็นผู้ร่วมพัฒนานี้ ใช้แปรงหมุนและน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียอย่างอ่อนเพื่อขัดหนังวัวเช่นเดียวกับการล้างรถ

เมื่อไม่นานมานี้ ความพยายามด้านความปลอดภัยด้านอาหารของคาร์กิลล์ให้ความสำคัญกับเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลาในเนื้อไก่งวงและเนื้อวัว ผลของการที่บริษัทต้องเรียกคืนเนื้อไก่งวงบดเนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลลา ไฮเดลเบิร์ก ในปี 2011 ทำให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยด้านอาหารของคาร์กิลล์พัฒนาวิธีการทดสอบขีดกักกั้นสำหรับเชื้อซาลโมเนลลาขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้แทนที่วิธีการเดิมที่ใช้เวลานานและมีต้นทุนสูง โดยกระบวนการดังกล่าวจะสุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้แต่ละชุด เพื่อนำมาทดสอบหาระดับเชื้อซาลโมเนลลา วิธีการที่คาร์กิลล์ใช้สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดอันเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่งวงและเนื้อวัวดิบที่ปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลลาได้ ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนของบริษัทในการผลิตและแยกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่งวงและเนื้อวัวดิบที่มีซาลโมเนลลาอีกด้วย

การทดสอบขีดกักกั้นให้ความสำคัญกับระดับของเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา แทนการทดสอบที่ทำได้แค่เพียงระบุว่ามีเชื้ออยู่หรือไม่เท่านั้น ผลิตภัณฑ์เนื้อบดที่ตรวจพบเชื้อซาลโมเนลลามากกว่าหนึ่งเซลล์ต่อกรัมจะถูกนำไปปรุงให้สุกเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบที่มีเชื้อซาลโมเนลลาน้อยกว่าหนึ่งเซลล์ต่อกรัมจะถูกนำไปจำหน่ายภายในแปดถึงสิบสองชั่วโมง ซึ่งทำให้คาร์กิลล์สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อดิบที่เชื่อถือได้ให้แก่ลูกค้า ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักน้อยที่สุด

ในฐานะที่เป็นผู้นำความปลอดภัยด้านอาหารและแนวทางการปฏิบัติมากมายที่กลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม คาร์กิลล์ไม่ได้มองว่าความปลอดภัยด้านอาหารเป็นความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่กลับแบ่งปันความรู้ด้านอาหารและแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งพัฒนาขึ้นให้แก่วงการอุตสาหกรรม ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแล องค์กรการค้า กลุ่มผู้ผลิต ลูกค้า เพื่อนร่วมวงการ และอื่นๆ ช่วยให้คาร์กิลล์ทำได้ตามความมุ่งมั่นของบริษัทในการจำหน่ายอาหารที่ปลอดภัย ได้ทุกมื้อ ทุกวัน ได้ดียิ่งขึ้น

การพาสเจอร์ไรซ์ด้วยความร้อนและการทดสอบขีดกักกั้นเป็นเพียงตัวอย่างของความพยายามใหม่ๆ อีกหลายด้านที่ทีมงานด้านความปลอดภัย คุณภาพ และกำกับดูแลด้านอาหารของคาร์กิลล์พยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ของคาร์กิลล์มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น