การสร้างความชัดเจนในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน 

การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอในธุรกิจซื้อขายล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการริเริ่มทำการซื้อขายผ่ายระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเข้ามาแทนที่การซื้อขายผ่านโทรศัพท์ในช่วงต้นยุค 2000 หรือการเริ่มใช้กฎข้อบังคับซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากวิกฤติการเงินในปี 2008 ตลาดซื้อขายล่วงหน้าคือการแลกเปลี่ยนทางการเงินแบบรวมศูนย์ ซึ่งผู้คนสามารถซื้อขายสัญญาที่เป็นมาตรฐานเพื่อซื้อโภคภัณฑ์หรือเครื่องมือทางการเงินในปริมาณที่กำหนด ในราคาที่กำหนด และมีการส่งมอบในอนาคตตามเวลาที่กำหนด

ในฐานะผู้ซื้อ ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายโภคภัณฑ์ทางกายภาพทั่วโลก คาร์กิลล์มีการจัดการความเสี่ยงสำหรับโภคภัณฑ์ของตนในตลาดซื้อขายล่วงหน้าทั่วโลกมาเป็นเวลายาวนานแล้ว แต่ในปี 2006 คาร์กิลล์ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโฉมวิธีการซื้อขายสินค้าล่วงหน้าของตนเอง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ยุ่งยากและมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น ธุรกิจ 40 แห่งของคาร์กิลล์ต่างทำธุรกรรมซื้อขายล่วงหน้าแยกกันอย่างเป็นอิสระ กับสถาบันการเงินภายในบริษัทและภายนอก ลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดความซ้ำซ้อนมากมาย ต้องเสียค่านายหน้าซ้ำซ้อน และยังทำให้ขาดประสิทธิภาพในด้านค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนและด้านการเงิน ปัญหาไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจบางแห่งต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ แต่หลายแห่งยังประสบปัญหาสำคัญในการดำเนินการอีกด้วย

เพื่อปรับปรุงวิธีการซื้อขายล่วงหน้าของคาร์กิลล์โดยรวม บริษัทจึงได้สร้างกลุ่มกลุ่มซื้อขายและชำระตราสารอนุพันธ์ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานเดียวที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับสถาบันการเงินของคาร์กิลล์ และเพื่อใช้ความได้เปรียบจากขนาดของคาร์กิลล์ สถาบันการเงินต่างๆ มีการตอบรับในทางที่ดี โดยเสนอทั้งอัตรา โซลูชันการเงิน และค่าธรรมเนียมมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยคาร์กิลล์ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การดำเนินงาน และการจัดทำเอกสารของตนเองในทางกลยุทธ์ ในปัจจุบัน คาร์กิลล์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านดอลลาร์ จากวิธีการ “แพลตฟอร์มซื้อขายล่วงหน้าเดี่ยว”

ค่าใช้จ่ายที่สามารถประหยัดได้จากวิธีการที่เรียบง่ายและคล่องตัวยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อพาร์ทเนอร์ธุรกิจรวมไปถึงซัพพลายเชนของคาร์กิลล์เช่นกัน กลุ่มซื้อขายและชำระตราสารอนุพันธ์ได้ช่วยให้คาร์กิลล์สามารถรักษาประสิทธิผลโดยรวมของตนเองในฐานะพาร์ทเนอร์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งในการประสานงานกับผู้ผลิตโภคภัณฑ์ในชั้นซื้อขายซึ่งดำเนินการผ่านคาร์กิลล์ หรือกับสถาบันการเงิน ซึ่งตอนนี้ฝ่ายต่างๆ สามารถดำเนินการผ่านหน่วยงานเดียวแทนที่จะติดต่อผ่านหลายหน่วยงาน